Cr ภาพ : travel.kapook.com

นับวันความต้องการการเดินทางยิ่งมากขึ้น ทั้งเดินทางไปทำงาน ท่องเที่ยว จับจ่ายซื้อของ พบปะ เพื่อนฝูง และเจรจาธุรกิจ ปัจจุบัน เรามีทางเลือกในการเดินทางมากมาย แต่คนไทยยังคงพึ่งพาระบบถนนเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ แต่หากทุกคนใช้แต่รถยนต์ตัว ถนนเท่าที่มีอยู่ทุกวันนี้จะไปพอได้อย่างไร ทุกวันนี้การจราจรก็ติดขัดแสนสาหัส ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหามลพิษ และปัญหาอื่นๆ ตามมา

ปัจจุบันเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกเน้นมาให้ให้ความสำคัญกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน หรือ Mass Transit โดยมีการพัฒนาโครงข่ายการเดินทางที่ทันสมัยครอบคลุมและสะดวกสบายเพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยการขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น เราลองมาดูกันว่า คนไทยเดินทางกันแบบไหน และอย่างไร

จากข้อมูลของสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร กระทรวงคมนาคมระบุว่า คนไทยเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวถึง 52% รองลงมา 37% โดยสารรถประจำทาง และพบว่า เดินทางโดยรถไฟเพียง 5% เท่านั้น ด้านการขนส่งสินค้า 87.5% -ขนส่งทางถนน ขนส่งทางน้ำ 11.08% ทางอากาศ 0.02% และทางรถไฟ เพียง 1.4%

ปัจจุบัน ระบบรางเข้ามามีความสำคัญและเป็นทางเลือกที่ดีของประชาชน ดังนั้นหลายๆ ประเทศทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบรางมากขึ้น ทั้งการพัฒนารถไฟทางไกล (รถไฟธรรมดาและรถไฟความเร็วสูง) และรถไฟในเมือง หรือรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตเมือง (Mass Rapid Transit) ซึ่งระบบรางได้รับการยอมรับว่า เป็นการเดินทางที่สามารถกำหนดเวลาการเดินทางได้แน่นอน ตรงเวลา สามารถจุผู้โดยสารได้ในปริมาณมาก ราคาถูก และยังเป็นบริการที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คงมีคำถาม ว่า ใช้รถไฟแล้วดีอย่างไร ทำไมยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ถึงลงทุนก่อสร้างทางรถไฟจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะรถไฟต้องมี “ดี”แน่ๆ

เห็นแล้วใช่มั้ยว่า เดินทางโดยรถไฟสะดวก และประหยัดสามารถขนส่งผู้ผู้โดยสารได้คราวละมากๆ มีต้นทำการลงทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งทางถนนและทางอากาศ และยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่าการขนส่งให้ระบบอื่นๆ

ปัจจุบัน ทางรถไฟทั่วโลกมี 1,370,782 กิโลเมตร

ประเทศที่ครองแชมป์ความยาวของรางรถไฟคือ สหรัฐอเมริกา 226,427 กิโลเมตร

ประเทศที่ครองแชมป์ความยาวรางต่อพื้นที่ คือ เยอรมันนี อยู่ที่ 105 เมตรต่อตารางกิโลเมตร

ประเทศที่ครองแชมป์ความยาวรางต่อจำนวนประชากรคือ รัสเซีย อยู่ที่ 895 ล้านคนต่อกิโลเมตร

ส่วนประเทศไทย ปัจจุบันมีโครงข่ายรถไฟทางไกล 4,044 กิโลเมตร โดยมีแผนที่จะพัฒนาให้เพิ่มขึ้นเป็น 6,463 กิโลเมตร ภายในปี 2580

เป็นที่พิสูจน์กันมาแล้วว่า การเดินทางโดยรถไฟ ประหยัด ปลอดภัย เดินทางครั้งต่อไป ลองมาใช้บริการรถไฟไทยกันบ้างนะคะ ซึ่งตอนนี้เขากำลังขยายเส้นทาง ปรับปรุงและพัฒนาบริการที่หลากหลาย เพื่อให้วันพักผ่อนของคุณสะดวก สบาย และปลอดภัย ที่สำคัญช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ด้วยนะจะบอกให้

ที่มา : หนังสือ 122 ปี ก้าวสู่อนาคตรถไฟไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย